CHIC เผยผลประกอบการปี 2565 รายได้รวม 770 ล้านบาท โต 14% กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท เล็งจ่ายปันผลอัตราหุ้นละ 0.0025 บาท แย้มไตรมาส 1/2566 แนวโน้มเติบโตดี เปิดประเทศหนุน ภาคอสังหาฯ เปิดโครงการใหม่ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ปรังปรุงซ่อมแซม รับตลาดการท่องเที่ยว ดันความต้องการสินค้าเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ ควบคู่กลยุทธ์ O2O ขยายฐานลูกค้า เสริมศักยภาพการแข่งขัน ลุยเดินหน้าประมูลงานโครงการแนวราบ-แนวสูงเพิ่มเติม ผลักดันรายได้รวมโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ “CHIC” ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนครบวงจร ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายใต้แบรนด์หลัก “ชิค รีพับบลิค” (CHIC Republic) และ “ริน่า เฮย์” (RINA HEY) และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “แอชลีย์” (Ashley) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2565  บริษัทมีรายได้รวม 770 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 673 ล้านบาท จำนวน 97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% และมีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท 

ผลประกอบการในส่วนของรายได้รวมปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปริมาณยอดขายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้านและของตกแต่งบ้าน และรายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่าปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับ งานโครงการมีการทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง ในส่วนของกำไรสุทธิปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและทำการตลาดเพิ่มขึ้น  อีกทั้ง ผลกระทบจากการแก้ไขสัญญาเช่าที่เป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลประจำปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.0025 บาท  คิดเป็นจำนวนเงินปันผล 3.40 ล้านบาท ทั้งนี้ รอมติการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนเมษายนอีกครั้ง

“ทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/2566 แนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศ หนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร เตรียมปรับปรุงซ่อมแซม รับตลาดการท่องเที่ยว รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ เร่งเปิดโครงการใหม่ ผลักดันความต้องการสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้านและของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น 

บริษัทยังคงมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำนวัตกรรมมาใช้ในการออกแบบและผลิตสินค้า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพ ควบคู่กับการพัฒนากลยุทธ์การตลาด O2O (Online to Offline) ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ เสริมศักยภาพการแข่งขัน รวมถึง เดินหน้าประมูลงานโครงการแนวราบ-แนวสูงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เตรียมเปิดให้บริการพื้นที่เช่าเพิ่ม สร้างรายได้ประจำ ผลักดันรายได้รวมโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายกิจจากล่าว